Last updated: 14 ธ.ค. 2567 | 8351 จำนวนผู้เข้าชม |
คุนหมิง เป็นเมืองหนึ่งในประเทศจีนที่คนไทยส่วนใหญ่ต่างก็คุ้นชื่อคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจ หรือถ้าอยากไปเที่ยว จะวางแผนไปคุนหมิงเดือนไหนดี สำหรับโอกาสดีๆ ที่เราจะเที่ยวจีนได้แบบฟรีวีซ่า วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับที่เที่ยวคุนหมิง ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า ‘เมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ’ เนื่องจากที่นี่จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15-18 องศาตลอดทั้งปี เเละวันนี้ จะมาเเนะนำ 12 ที่เที่ยวคุนหมิง ในปี 2024 กันครับ
1.น้ำตกคุนหมิง (Kunming Waterfall Park)
นี่คือน้ำตกโดยฝีมือมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ตัวน้ำตกมีความยาวถึง 400 เมตร และมีความสูงประมาณ 12.50 เมตร ตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะขนาดใหญ่และใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมดเกือบ 3 ปี ด้านล่างน้ำตกเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สวยงามสอดรับกับตัวน้ำตก กลางทะเลสาบมีทางเดินทอดตัวยาว ขนานไปกับน้ำตกให้เดินชมความสวยในระยะประชิด สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวคุนหมิงเดือนไหนดี แนะนำให้จดที่นี่ลงลิสต์เอาไว้ก่อนได้เลย เพราะไม่ว่าจะมาเที่ยวคุนหมิงกันตอนไหนก็สามารถมาชมความสวยงามแบบชิลๆ ที่นี่ได้ทุกฤดู
2. อุทยานป่าหินงาม (Kunming Stone Forest)
จุดเช็กอินสำคัญซึ่งได้รับการบันทึกเอาไว้ว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวอุทยานอยู่ห่างจากเมืองคุณหมิงเกือบ 80 กิโลเมตร ใครที่เดินทางท่องเที่ยวคุนหมิงด้วยตัวเองและใช้วิธีเช่ารถยนต์ขับก็นับว่าเดินทางได้สะดวกสบาย อุทยานที่นี่กินพื้นที่ประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ตามพื้นที่ซึ่งแตกต่างกันออกไป หินทั้งหมดในอุทยานนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีรูปร่างชวนให้จินตนาการได้หลากหลาย นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติซึ่งพลาดไม่ได้เลยจริงๆ
3. วัดหยวนทง (Yuantong Temple)
วัดนี้นับเป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองคุนหมิง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังและมีอายุมากกว่า 1,200 ปี มีลักษณะงดงามแปลกตาเนื่องจากภายในวัดสร้างขึ้นด้วยการผสมผสานความเป็นวัดแบบไทย เมียนมาร์ และทิเบตเข้าไว้ด้วยกัน ไฮไลต์หนึ่งของวัดนี้อยู่ที่บริเวณศาลาแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือ และองค์เจ้าแม่กวนอิมแบบเมียนมาร์ ที่ว่ากันว่าผู้คนที่มาขอพรเรื่องลูก ขอคนรัก และขอเรื่องสุขภาพ มักจะสมหวังดังใจ ไม่ว่าคุณจะมีแพลนเดินทางไปคุนหมิงเดือนไหนดี ก็มาพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้กันได้ตลอด
4. เขาซีซาน (Xishan Mountain)
มาเที่ยวคุนหมิงกันทั้งที ขอกระซิบว่าไม่ควรพลาดที่นี่เลย เพราะคนจีนเชื่อกันว่าหากมาเยือนคุนหมิงแล้วจะต้องแวะมาลอดประตูมังกรแห่งเขาซีซานกันให้ได้ ว่ากันว่าการมาลอดประตูแห่งนี้จะทำให้โชคร้ายมลายหายไป และจะได้แต่สิ่งดีๆ เข้ามาอีกหลายสิบหลายร้อยเท่า ประตูมังกรแห่งเขาซีซานนั้นมีประวัติยาวนานนับพันปี ทางขึ้นของที่นี่ในบางช่วงจะต้องเดินผ่านอุโมงค์หินที่ผู้คนในสมัยก่อนสกัดด้วยสองมืออย่างน่าอัศจรรย์ ด้านบนยังมีวิวสวยๆ จากมุมสูงให้ชม เสมือนเป็นของขวัญตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยที่เดินขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่มาเที่ยวคุนหมิงด้วยตัวเองเมื่อไหร่อย่าลืมใส่ในแพลนเที่ยวเอาไว้เลย
5. เมืองโบราณต้าหลี่ (Dali Old Town)
สำหรับคนที่แพลนเที่ยวคุนหมิงด้วยตัวเอง ขอชวนให้ลองเดินทางจากเมืองคุนหมิงด้วยรถไฟความเร็วสูงไม่ถึงสองชั่วโมง ก็จะพบกับเมืองต้าหลี่ ซึ่งเมืองนี้มีทีเด็ดคือเมืองโบราณที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน เมืองโบราณแห่งนี้มีอายุมากกว่า 1,200 ปี นอกจากความสวยของสถาปัตยกรรมจีนโบราณแล้ว เมืองนี้ยังมีความสวยงามของทะเลสาบเอ๋อร์ไห่ และเทือกเขาชางซาน ปัจจุบันภายในเมืองโบราณแห่งนี้มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ที่พัก และจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ไม่ต้องกังวลว่าจะไปเที่ยวคุนหมิงเดือนไหนดี เพราะบอกได้เลยว่าที่นี่สามารถมาฟินกับความสวยของเมืองโบราณได้ทุกฤดู
6. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade dragon snow Mountain)
พิกัดที่สวยราวกับสรวงสวรรค์ของคนไม่กลัวความสูง ว่ากันว่าที่นี่คือหนึ่งในทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามที่สุดในประเทศจีน ยิ่งในยามที่หิมะสีขาวปกคลุมยอดเขา มีแบ็กกราวนด์สีฟ้าสดใสของท้องฟ้าอยู่เบื้องหลัง นับเป็นช่วงเวลาที่ภูเขาแห่งนี้จะยิ่งสวยงามจับตา ที่นี่มีความสูงอยู่ที่ 5,596 เมตร แต่จะมีจุดสูงสุดที่เปิดให้เข้าชมได้อยู่ที่ 4,680 เมตร หากคุณจะวางแผนไปเที่ยวคุนหมิง ขอแนะนำให้ค่อยๆ เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทาง รวมถึงควรมีอุปกรณ์กันหนาวและออกซิเจนกระป๋องติดไปด้วย เนื่องจากอากาศด้านบนจะค่อนข้างเบาบาง เป็นที่เที่ยวที่เหมาะมากสำหรับช่วงปลายฤดูหนาวที่หิมะยังแน่นๆ จะฟินที่สุด
7. เมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang Old Town)
อีกหนึ่งพิกัดที่ไปเที่ยวคุนหมิงแล้วต้องแวะ ก็คือเมืองโบราณลี่เจียงแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี มีสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่แสนจะงดงามให้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมืองลี่เจียงแห่งนี้ยังมีสะพานข้ามคลองกว่า 300 แห่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘เวนิสแห่งตะวันออก’ ทุกวันนี้เมืองโบราณลี่เจียงกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน บ้านเรือนโบราณได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นร้านอาหาร ที่พัก และร้านค้า เป็นอีกพิกัดที่เหมาะจะมานอนพักสักคืนสองคืน
8. สระมังกรดำ (Black Dragon Pool)
สัมผัสทิวทัศน์งดงามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์จีนสักเรื่อง กับสระมังกรดำแห่งนี้ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1737 หรือในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง ปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนสาธารณะยู้วฉวน (Yu Quan) ตัวสระมีความยาวประมาณ 750 เมตร กว้าง 210 เมตร และลึกประมาณ 4.6 เมตร น้ำในสระนั้นใสสะอาดจนมองเห็นพื้นใต้น้ำ รอบสระรายล้อมด้วยศาลาและสะพานสไตล์จีนโบราณ แถมยังมีวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะมังกรหยกให้เห็นเป็นภาพพื้นหลัง ที่นี่คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คุณไม่ต้องกังวลว่าควรเที่ยวคุนหมิงเดือนไหนดี เพราะที่สระมังกรดำแห่งนี้จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไปในทุกฤดูให้ได้ชมตลอดทั้งปี
9. การแสดง โชว์จางอี้โหมว (Impression of Lijiang)
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงามแล้ว หากคุณได้แวะชมเมืองลี่เจียงซึ่งอยู่ไม่ไกล แนะนำให้ไม่ควรพลาดกับการซื้อตั๋วมาชมอีกหนึ่งการแสดงไฮไลต์อย่าง Impression of Lijiang โดยการแสดงนี้จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยมีฉากการแสดงเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกที่อยู่ด้านหลัง ออกแบบการแสดงโดยผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่างจางอี้โหมว ทำให้โชว์ที่แลดูเรียบง่ายกลายเป็นการแสดงที่ทรงพลัง สร้างความประทับใจแก่ผู้ชม
10. หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)
อีกหนึ่งพิกัดธรรมชาติที่สวยงามและน่ามหัศจรรย์จนอยากชวนให้มุ่งหน้าไปเช็กอินกัน คือหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากภูเขาหิมะมังกรหยก มีจุดไฮไลต์เป็นทิวทัศน์ธรรมชาติสุดอลังการ ทั้งแม่น้ำและสระน้ำสีฟ้าใส ซึ่งเกิดจากหิมะบนภูเขามังกรหยกที่ละลายกลายเป็นสายน้ำไหลลงมารวมกัน นอกจากสีสันอันงดงามแล้ว น้ำในบริเวณนี้ยังมีอุณหภูมิเย็นจัดตลอดทั้งปี เพราะรายล้อมด้วยภูเขาหิมะอยู่โดยรอบ ที่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวที่เป็นไฮไลต์เด็ดๆ อีกหลายแห่งให้ได้เก็บภาพกันในทุกฤดู