7 จุดเช็กอิน ที่เที่ยวเมืองปักกิ่ง Beijing อัปเดต 2024

ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และนวัตกรรมสมัยใหม่ ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของมรดกทางวัฒนธรรม ความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม และอาหารรสเลิศที่หลากหลาย เมืองนี้มีที่ถ่ายรูปมากมายและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเช็คอินเยอะแยะด้วย เเละวันนี้จะมาเเนะนำ 7 จุดเช็กอิน ที่เที่ยวเมืองปักกิ่งกันครับ

1.กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)

ต้องบอกว่า ใครที่วางแผนมาเที่ยว ประเทศจีน ต้องไม่พลาดแวะมา กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัย จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ราชวงศ์ฉิน ต่อเนื่องมาอย่างยาวนานหลายยุคหลายสมัยกว่า 2,000 ปี จนมีความยาวกว่า 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศเลยทีเดียว สำหรับใครที่มา เที่ยวปักกิ่ง ก็สามารถมาชมความอลังการของ กำแพงเมืองจีน ได้ที่ ด่านจวีหยงกวน (Juyongguan) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่งมากที่สุด โดยตั้งอยู่บนภูเขา วิวสวยอลังการมากๆ รวมถึงยังมีป้อมปราการอายุกว่าร้อยปี ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกด้วย

2. หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tian Tan Temple of Heaven)

มาต่อกันที่ มรดกโลกในเมืองจีน อีกแห่งกันค่ะ หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tian Tan Temple of Heaven) สถานที่สำคัญของเมืองจีน ที่สร้างขึ้นในสมัย จักรพรรดิหย่งเล่อ ราชวงศ์หมิง ในปี ค.ศ.1420 สำหรับประกอบพิธีบวงสรวงต่อสวรรค์ตามคติความเชื่อของจีนโบราณนั่นเอง ภายในนั้นประกอบด้วยที่เที่ยวสำคัญๆ 3 แห่งด้วยกัน คือ ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตำหนักหวงฉุงหยีว์ และ หยวนซิวถาน ใครที่มาเที่ยวปักกิ่งแล้ว ต้องไม่พลาดแวะมาที่นี่สักครั้ง

3. พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)

ใครที่มาถึงเมืองจีนแล้ว ไม่ได้มาที่ พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) หรือ พระราชวังกู้กง แห่งนี้ ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองจีนเลยทีเดียว เพราะที่นี่นอกจากสวยงามอลังการที่ต้องแวะมาเยือนแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศจีน อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียน มรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1987 ด้วย พระราชวังแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1406 ก่อนจะแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1420 และได้กลายเป็นที่ประทับของจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์แห่งราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty 1368 - 1644) ตลอดไปจนถึงราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty 1644 - 1912) และที่นี่ยังเป็นสถานที่จองจำ จักรพรรดิผู่อี๋ (Puyi) จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิง ก่อนจะเปลี่ยนจากสถานที่ประทับของจักรพรรดิมาเป็น พิพิธภัณฑ์กู้กงแห่งชาติ (Palace Museum) ที่จัดแสดงสมบัติล้ำค่าของประเทศจีนให้ทุกคนสามารถเข้าชมได้ 

4. จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของ กรุงปักกิ่ง ก็คือ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) จัตุรัสกลางเมืองในใจกลางกรุงปักกิ่ง ซึ่งจะอยู่ทางทิศเหนือของเขต พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่มาเที่ยวพระราชวังต้องห้ามแล้ว ก็แวะมาเช็กอินที่ จัตุรัสเทียนอันเหมิน แห่งนี้ได้ด้วย ที่นี่จะประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน (National Museum of China) ตึกรัฐสภาประชาชน (The Great Hall of the People) อนุสาวรีย์วีรชน (The Monument to the People’s Heroes) และ ตึกอนุสรณ์สถานประธานเหมา (Chairman Mao Zedong Memorial Hall) ค่ะ และที่นี่ยังเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ทั้งหมด 440,000 ตารางเมตร สามารถจุคนได้ถึง 1 ล้านคนเลยทีเดียว ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ สมเป็นเมืองจีนเลย

5. ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street)

ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) ที่เที่ยวปักกิ่ง ที่สายเที่ยวพลาดไม่ได้เลย เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมของร้านอาหารต่างๆ ไว้มากมาย ทั้ง อาหารจีน อาหารตะวันตก มารวมตัวกันไว้ที่นี่รวมถึง สตรีทฟู้ด ต่างๆ มากมายให้ได้เลือกชิมกันจนพุงกางเลย ถนนคนเดินแห่งนี้ยังเป็นที่ที่เหมาะกับสายช้อปอีกด้วย เพราะมีห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่โด่งดัง และทันสมัย เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ให้สายช้อปได้เดินเล่นเพลินๆ ทั้งสินค้า เสื้อผ้าแฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ และอื่นๆ ช้อปไป ชิมไป ไม่มีเบื่อแน่นอน

6. ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nan Luo Gu Xiang)

ถนนโบราณหนานโหลวกู่เซียง (Nan Luo Gu Xiang) เป็นถนนสายที่มีเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของปักกิ่งที่มีอายุหลายร้อยปี และได้ปรับมาเป็นร้านค้าต่างๆ โดยยังรักษาสภาพหมู่บ้าน และผังเมืองโบราณไว้เป็นอย่างดี ภายในมีทั้ง บาร์ คาเฟ่ เบเกอรี่ ร้านเครื่องประดับ และร้านค้าต่างๆ ทำให้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่มาปักกิ่งไม่น้อยไปกว่าที่อื่นๆเลย อีกทั้งยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ บรรยากาศจีนโบราณ ให้ได้มาโพสต์ท่าถ่ายภาพกันชิลๆ ด้วยนะ

7. พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน (Yiheyuan / Summer Palace)

พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) หรือ อี้เหอหยวน (Yiheyuan) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปักกิ่งไปไม่ไกล ซึ่งแต่เดิมเป็นวังหลวงและสวนดอกไม้ของพระเจ้ากุบไลข่าน โดยต่อมา กษัตริย์ราชวงศ์ชิง ทรงใช้เป็นที่เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่ไกลจากตัวเมืองปักกิ่งมาก และยังมีความสวงบร่มรื่น ภายในอุทยานนั้นสวยงามเต็มไปด้วย ต้นไม้ ดอกไม้ นานาพันธุ์ มีตำหนักน้อยใหญ่หลายหลัง สวนดอกไม้กว่า 300 แห่ง และทะเลสาบ