เที่ยวซาปา เดือนไหนดี …?จริงๆ แล้วเราสามารถไป ทัวร์ซาปา ได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปีที่เป็นฤดูหนาว ไปสัมผัสอากาศเย็นได้แบบชิลๆ และช่วงเวลาน่าเที่ยวที่แนะนำก็คือ เดือนมีนาคม-มิถุนายน และอีกช่วงก็คือ เดือนกันยายน-พฤศจิกายน โดยในช่วงเวลานี้ สภาพอากาศจะพอดีๆ คือไม่ค่อยมีฝน ช่วงเวลากลางวันจะมีแดดอ่อนๆ และอากาศจะค่อนข้างเย็นในยามค่ำคืน จึงทำให้เที่ยวได้สบายๆการชม นาขั้นบันได ซาปา ถ้ามาเที่ยวในช่วง เดือนมิถุนายน-สิงหาคม จะได้เห็นนาขั้นบันไดสีเขียวขจี แต่ถ้าในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน นาข้าวจะกลายเป็นสีเหลืองทอง พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวถ้าอยากเห็น เมืองซาปาในสายหมอก ควรจะมาในช่วงฤดูหนาว เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ แต่ช่วงนี้นักท่องเที่ยวก็จะเยอะหน่อย ดังนั้นใครที่ชอบความเงียบสงบ ก็ควรเลี่ยงการมาเที่ยวในช่วงนี้ค่ะ
การเดินทางสู่ซาปาเนื่องจากเมืองซาปาตั้งอยู่บนภูเขาสูงซึ่งไม่มีสนามบินรองรับ เพราะฉะนั้นการจะเดินทางมาเยือนที่นี่ได้ก็คือ นั่งเครื่องบินมาลงที่เมืองฮานอย จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังเมืองซาปาด้วยรถบัสหรือรถโค้ช รวมถึงอีกหนึ่งวิธีที่นิยมกันมากก็คือ การนั่งรถไฟในช่วงกลางคืน เพื่อที่จะตื่นมาสดใสกับวิวสวยๆ ของเมืองลาวไคในตอนเช้านั่นเอง– การเดินทางโดยรถโค้ช ในกรณีมากับบริษัททัวร์ ซึ่งค่า ทัวร์ซาปา นอกจากจะรวมค่าตั๋วเครื่องบินจากไทย โรงแรมที่พัก อาหารการกินแล้ว ยังมีไกด์นำเที่ยว และรถโค้ชสำหรับเดินทางไปไหนมาไหนด้วย ดังนั้นจึงสะดวกสบาย ไม่ต้องไปจองตั๋วรถไฟหรือรถบัสให้ยุ่งยาก ไม่ต้องวางแผนว่าจะไป ที่เที่ยวซาปา ที่ไหนดี จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก และผู้ที่มากันเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งรวมถึงเด็กๆ และผู้สูงอายุ– การเดินทางโดยรถบัสสาธารณะ จะมีรถบัสประจำทางที่ออกจากเมืองฮานอยให้บริการทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็ว เพราะรถบัสจะวิ่งตรงไปยังเมืองซาปาโดยที่ไม่หยุดในตัวจังหวัดลาวไค รถบัสที่ให้บริการก็มีอยู่ด้วยกันหลายแบบหลายราคา แล้วแต่ความสะดวกสบาย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hanoisapatrain.com
– การเดินทางโดยรถไฟ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 9 ชั่วโมง และจะหยุดอยู่ที่สถานี Lao Cai ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปยัง ซาปา ซึ่งผู้ที่สนใจจะเดินทางโดยรถไฟต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ และการเดินทางกลับในวันอาทิตย์และวันจันทร์ ตั๋วจะหายากกว่าปกติ โดยรถไฟจากฮานอยไป ซาปา จะมีผู้ให้บริการหลายเจ้า และมีราคาที่แตกต่างกันระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืน ราคาตั๋วโดยประมาณ จะอยู่ที่ $10-20/คน/เที่ยว ส่วนตั๋วกลางคืนนั้นอยู่ที่ $35-180/คน/เที่ยว ถึงจะแพงกว่าแต่ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากกว่าเวลากลางวัน
ทำความรู้จักเมืองซาปาและเก็บข้อมูล เที่ยวซาปา เดือนไหนดี กันมาแล้ว ทีนี้ก็เตรียมตัวไปเช็คอินกับ 8 ที่เที่ยวซาปา แนะนำว่าไม่ควรพลาด ไปเต็มอิ่มเก็บบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามกันเลยจ้า…!!
1. ยอดเขาฟานซิปัน (Fansipan)
เที่ยวซาปา พิกัดแรกไปพิชิตความสูงกันที่ ยอดเขาฟานซิปัน เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศเวียดนาม ด้วยความสูง 3,143 เมตร และยังได้รับฉายาว่า“หลังคาแห่งอินโดจีน” บรรยากาศด้านบนสวยงามมากๆ เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่เราจะได้พบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีความสวยงามตระการตา รวมถึงป่าโดยรอบที่ยังคงสวยสมบูรณ์แบบ และบนยอดเขาฟานซิปัน จะมีสัญลักษณ์เป็น พีระมิดที่ทำจากสแตนเลส ตั้งไว้บนกลุ่มหินขนาดใหญ่ เมื่อมายืนอยู่ตรงจุดสูงสุดจะมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองเมฆเลยทีเดียว
การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปันจะใช้การนั่งกระเช้าไฟฟ้า เป็นระบบสลิงสามสาย มีความยาวถึง 6.3 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดที่สถานีสุดท้ายอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 3,000 เมตร ซึ่งในระหว่างการนั่งกระเช้าเราก็จะได้ชมธรรมชาติและมองเห็น ที่เที่ยวซาปา อื่นๆ รวมถึงวัดด้วยค่ะ
2. ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain)
ที่เที่ยวซาปา ต่อมาคือที่ ภูเขาฮามรอง เป็นภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ ใจกลางเมืองซาปา ถ้าใครไม่อยากขึ้นเขาที่สูงมากๆ อย่างยอดเขาฟานซิปัน ก็มาเที่ยวที่นี่กันได้ เพราะเขาแห่งนี้ไม่ได้สูงชันมากนัก อีกทั้งเส้นทางที่เดินขึ้นเขายังเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสให้ชมไปตลอดสองฝั่ง ส่วนทางขึ้นเขานั้นสามารถเดินเลยตลาดไปนิดนึงก็ถึงแล้ว ใช้เวลาไม่นานก็เดินขึ้นไปถึงยอดเขา ก็จะได้พบกับดอกไม้ที่คนในท้องถิ่นได้ขึ้นมาปลูกเอาไว้ให้เป็นจุดท่องเที่ยว นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ อีกด้วย เพราะสามารถมองเห็นเมืองซาปาได้แบบพาโนรามา และในบางวันถ้ามีหมอกลงมากๆ ก็จะได้เห็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในสายหมอก ดูสวยงามเหมือนภาพวาดเลยทีเดียว
3. น้ำตกสีเงิน (Silver Water Fall)
อีกหนึ่งโลเคชั่น ที่เที่ยวซาปา ธรรมชาติงดงามก็คือที่ น้ำตกสีเงิน หรือ Silver Water Fall เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองซาปา ไหลจากยอดเขาฟานซิปันลงสู่ด้านล่าง มีความสูง 100 เมตร อีกทั้งยังสามารถมองเห็นจากระยะไกลได้อย่างชัดเจน มาที่นี่แล้วห้ามพลาดการขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานที่ทอดข้ามสายน้ำตกกันด้วยนะคะ
4. โบสถ์ซาปา (Sapa Stone Church) โบสถ์หินแห่งเมืองซาปาที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า The Ancient Stone Church ถือเป็นไอคอนที่สำคัญของเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องมาเยือน เพราะถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ โดยประวัติของโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1895 ซึ่งตอนนั้นมีคนฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในเมืองซาปาเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการสร้างโบสถ์นี้เพื่อให้คนฝรั่งเศสได้ใช้เข้าร่วมพิธีมิสซาวันหยุดสุดสัปดาห์ และถึงแม้ว่าในปัจจุบันคนฝรั่งเศสจะย้ายกลับไปแล้ว แต่ทางเมืองก็ได้มีการอนุรักษ์เอาไว้ เพราะนอกจากจะเป็น ที่เที่ยวซาปา ที่สำคัญแล้ว ชาวคาทอลิกที่อาศัยอยู่ในเมืองก็ยังใช้ทำพิธีมิสซาเช่นเดิม
5. ชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านชาวม้งและชาวเย้า
อีกหนึ่งกิจกรรมของการ เที่ยวซาปา ที่ไม่ควรพลาดก็คือ การเข้าร่วมทัวร์เดินป่า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะทำให้เราได้ให้เห็นวิถีชีวิตที่โดดเด่นของชาวบ้าน อย่างเช่นการไปเยี่ยมชม หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต หรือ Cat Cat Village ของชาวม้ง และ หมู่บ้านตานพิน ของชาวเย้า โดยหมู่บ้านเหล่านี้นอกจากจะสวยงามด้วยวิวธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ พวกชาวบ้านยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา รวมถึงยังมีวัฒนธรรมที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น และที่เห็นได้ชัดคือ การทำนาแบบขั้นบันได ที่สามารถชมได้เกือบทุกมุมของเมืองซาปา จนได้ชื่อว่า ซาปามีพื้นที่การทำนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในโลก
6. หุบเขาเมืองหัว (Muong Hoa Valley)
อีกพิกัดที่ไม่ควรพลาดในการชมนาขั้นบันได ก็คือที่ หุบเขาเมืองหัว หรือ เหมื่องฮวา ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม นาขั้นบันไดจะเป็นสีเขียวขจีเต็มพื้นที่ ส่วนตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะมีโอกาสได้เห็นทะเลสีทองของผืนนาขั้นบันไดที่ใกล้เวลาเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ ที่หุบเขาแห่งนี้ยังมีหมู่ก้อนหินขนาดใหญ่หลายร้อยก้อนที่ถูกแกะสลักด้วยภาพวาดลึกลับ ซึ่งไม่มีใครสามารถอธิบายถึงที่มาที่ไปได้ โดยภาพวาดเหล่านี้มีชีวิตอยู่มานานหลายศตวรรษท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ มาชมวิวทุ่งนาบนภูเขาสวยๆ กันได้ค่ะ
7. ตลาดเมืองซาปา
เที่ยวทริป ทัวร์ซาปา ให้สมบูรณ์แบบ ต้องแวะไปที่ ตลาดพื้นเมืองซาปา เป็นตลาดเก่าแก่ที่ยังคงบรรยากาศการค้าขายของชาวบ้านได้เหมือในอดีต เราจะได้เห็นถึงความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมต่างๆ ผ่านการเดินดูสินค้าพื้นเมืองในตลาด แนะนำให้มาเดินในช่วงสุดสัปดาห์ เป็นช่วงที่ชาวบ้านจากหมู่บ้านที่ห่างไกลจะนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกัน รวมถึงขายให้นักท่องเที่ยว ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้รับความเพลิดเพลินจากการเที่ยวตลาดนั่นเองจ้า
8. สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) ปิดท้ายกันด้วย ที่เที่ยวซาปา แห่งใหม่ นั่นก็คือ สะพานแก้วมังกรเมฆ หรือ Glass Bridge Rong May เป็นสะพานแก้วแห่งแรกในเวียดนาม ตั้งอยู่ห่างจากเมืองซาปาประมาณ 18 กิโลเมตร อยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร โดยในตัวสะพานจะมีลิฟต์แก้วที่มีความสูง 300 เมตร ด้านบนมีทางเดินและระเบียงกระจกใส ให้เราสามารถชมวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา รวมถึงวิวเทือกเขา Hoang Lien Son ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ยาวที่สุดในเวียดนาม มั่นใจได้เรื่องความแข็งแรงปลอดภัย เพราะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 3,000 คน แต่ทางสถานที่จะจำกัดจำนวนคนบนสะพานให้ไม่เกิน 500 คนเท่านั้น ใครไม่กลัวความสูงต้องไปให้ได้เลยค่ะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติเลยก็ว่าได้ค่ะสำหรับ เมืองซาปา เมืองในสายหมอกแห่ง เวียดนามเหนือ ใครอยากได้ทริปชิลๆ รับธรรมชาติบำบัด และสูดอากาศให้เต็มปอด ก็หาเวลาสัก 3-4 วันไป ทัวร์ซาปา กับครอบครัวหรือคนที่รัก ก็จะได้ชาร์จแบตเติมพลังชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
tag:ทัวร์เวียดนาม,ซาปา,เวียดนาม,ไปเวียดนาม,ทัวร์เวียดนาม2566,ทัวร์เวียดนามรีวิว,โรงแรมเวียดนาม,สถานที่เที่ยวเวียดนาม,Vietnam ทัวร์เวียดนามใต้,ทัวร์ดาลัดมุยเน่, ทัวร์โฮจิมินห์ซิตี้,ซาปา,